น้ำพริกปลาทู
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำพริกปลาทูเต็มไปด้วยประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นกระเทียมที่ช่วยในการแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมและอาการปวดท้องต่างๆ และยังมีต้นหอม ผักชี แตงกวา มะเขือเปราะและหอมแดงส่วนประที่กล่าวมาทั้งหมดต่างก็มีคุณค่าทางอาหารอย่างเช่น ช่วยขับเหงื่อ ลดน้ำตาลในเลือด ขับเสมหะ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ แก้เจ็บคอ แก้ทอนซิลอักเสบ ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะ มีวิตามินเอและแคโรทีนมาก บำรุงสายตาและป้องกันการเกิดมะเร็ง
ความหลากหลายของน้ำพริกนั้นแล้วแต่บางถิ่นจะเรียกอย่างเช่นภาคใต้จะเรียกว่าน้ำชุบ องค์ประกอบของน้ำพริกชาวใต้มีหลักๆ คือพริก หอมและกะปิถ้าผสมให้เข้ากันด้วยมือเรียกว่า น้ำชุบโจรหรือถ้าตำให้เข้าจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวเรียกว่า น้ำชุบ ทางชาวใต้ส่วนใหญ่กินน้ำพริกคู่กับผักหลายชนิดทั้งผักสดและผักลวกซึ่งจะแตกต่างจากภาคเหนือตรงที่เครื่องปรุงทุกอย่างต้องเผาให้สุกก่อน ปรุงรสด้วยเกลือเป็นหลัก เป็นต้นและน้ำพริกทางภาคอีสานแตกต่างไปที่มีปลาร้า ปลาสดและปลาช่อน
ความเป็นมาของน้ำพริกนั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีคำว่า “น้ำพริก” มีความหมายมาจากการปรุงด้วยการนำสมุนไพร พริก กระเทียม หัวหอมและเครื่องเทศกลิ่นแรง มาโขก บด รวมกันเพื่อใช้สำหรับจิ้ม โดยมีดอกแค มะเขือยาว แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือม่วง ถั่วหูและสัตว์น้ำต่าง ๆ เช่น ปลาและกุ้ง คนสมัยก่อนนิยมรับประทานสัตว์น้ำมากกว่าสัตว์บก จึงมีการคิดค้นน้ำพริกเพิ่มหลากหลายรสชาติและในปัจจุบันได้มีการนำน้ำพริกชนิดต่าง ๆ มาดัดแปลงเป็นอาหารหลากหลายประเภท รวมถึงนำมาผัดกับข้าว เช่น ข้าวผัดน้ำพริกนรก ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เป็นต้น
ภาพที่ทีมงานได้ร่วมกันทำน้ำพริกปลาทู
1.นำ พริก กระเทียม หัวหอมแดง ลงไปขั่วในกระทะ ประมาณ 5-10 นาที
2.นำปลาูทูไปทอด.....
3.นำพริก กระเทียม หัวหอมแดง มาตำ.....
4.น้ำเนื้อปลาทูทอด ไปตำรวมกับ กระเทียม หัวหอมแดง และพริก ให้เข้ากัน
5.ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา
6.ตกแต่งจานให้สวยงามเพื่อความน่ารับประทาน : D
ทางทีมงานได้ดูสัตรการทำจาก Google You Tube
สอบถามวิธีทำจาก นางสำรวย ศิริศัีกดิ์ คุณแม่ของนาย อรุณรัชช์ ศิริศักดิ์
ขอแสดงความขอบคุณที่ได้ช่วยให้ผลงานนี้สำเร็จด้วยดี
วิธีทำน้ำพริกปลาทู Click